เป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคเบาหวานดื่มน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นได้มั้ย

เป็นโรคหัวใจตีบ หลอดเลือดอุดตัน ดื่มน้ำมันมะพร้าวได้หรือไม่?
คำตอบที่ ดื่มได้ และควรดื่มด้วย เพราะมีงานวิจัยของ Felton และคณะตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ The Lancet ในปี 2537 และ รายงานของดร. Enig เมื่อปี พ.ศ. 2542 ค้นพบแล้วว่าสารตั้งต้นที่มีการอุดตันในหลอดเลือดนั้น เป็นพวก “ไขมันไม่อิ่มตัว”หลายตำแหน่ง (พบมากในน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว) และแผ่นไขมันที่เกาะเส้นเลือดในอนุพันคอเลสเตอรอล 74% เป็น “ไขมันไม่อิ่มตัว” และเป็นไขมันอิ่มตัวเพียง 26% เท่านั้น และในบรรดาไขมันอิ่มตัว 26% นี้ ไม่ใช่กรดลอริก หรือกรดไขมันไมริสตริกจากน้ำมันมะพร้าวเลย ในทางตรงกันข้ามกรดไขมันสายปานกลางในน้ำมันมะพร้าวจะดูดซึมเป็นพลังงานแก่ตับได้เร็วจึงเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ทำให้ตับสังเคราะห์ไขมันชนิดดีที่เรียกว่า HDL ไปกวาดเอาคอเลสเตอรอล และ LDL ตามผนังหลอดเลือดไปส่งที่ตับเพื่อนำไปผลิตเป็นฮอร์โมน น้ำดี เยื่อหุ้มเซลล์ ฉนวนหุ้มประสาทได้มากขึ้น ดังนั้นทางที่ถูกต้องคือต้องหยุดไขมันชนิดอื่นที่ไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่งให้หมด เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว ฯลฯ แล้วหันมาใช้น้ำมันมะพร้าวแทน

คำถามที่ เป็นโรคเบาหวานดื่มน้ำมันมะพร้าวได้หรือไม่?
คำตอบที่ ดื่มได้และควรดื่มด้วย เพราะเบาหวานมี 2 ลักษณะ ลักษณะแรกการคือตับอ่อนไม่ผลิตอินซูลินทำให้ไม่มีอินซูลินที่จะนำน้ำตาลไปเลี้ยงเข้าไปในเซลล์ได้ หรือลักษณะที่สองคือเกิดการต้านอินซูลิน แท้ที่จริงแล้วเกิดจาการที่เราบริโภคน้ำตาลและแป้งมาเกินไปจนร่างกายไม่สามารถเก็บอยู่ในรูปไขมันตามเนื้อเยื่อได้แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งในคนอ้วนจนไม่มีที่จะเก็บไขมันแล้ว และเกิดขึ้นได้ทั้งในคนที่มีโครงสร้างเล็กที่มี่ข้อจำกัดในการสะสมเนื้อเยื่อและไขมัน ผลก็คือร่างกายพยายามหยุดยั้งไม่ให้น้ำตาลไปเก็บตามเนื้อเยื่ออีก ทำให้ค้างอยู่ในหลอดเลือดในคนเป็นโรคเบาหวานทั้งสองลักษณะ เมื่อน้ำตาลค้างอยู่ในหลอดเลือดก็ทำให้หลอดเลือดเกิดการอักเสบก่อให้เกิดอีกหลายโรคตามมา แม้กระทั่งการปัสสาวะก็จะขับถ่ายเอาน้ำตาลออกมาด้วย จึงเรียกโรคนี้ว่า “เบาหวาน” หรือ ปัสสาวะหวานนั่นเอง

ดังนั้นสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน ทางที่ถูกต้องที่สุดก็คือการงดการบริโภคแป้งและน้ำตาล แต่แน่นอนว่าหลายคนจะโหยแป้งและน้ำตาล เพราะแม้แต่สมองเองก็ต้องการน้ำตาลไปเลี้ยงด้วย ด้วยเหตุผลนี้จึงควรดื่มน้ำมันมะพร้าวด้วย เพราะน้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันสายปานกลางที่ดูดซึมเร็ว โดยเฉพาะในขณะที่เรางดการบริโภคแป้งและน้ำตาลแล้ว น้ำมันมะพร้าวเมื่อถูกย่อยสลายจะกลายเป็น “สารคีโตน” ซึ่งจะไปเป็นอาหารให้เซลล์ได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องพึ่งอินซูลิน ทำให้ลดการโหยแป้งและน้ำตาลลง รวมถึงมีความรู้สึกหิวน้อยลงโดยทันที การบริโภคน้ำมันมะพร้าวให้ได้มีประสิทธิภาพสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน จึงควรงดแป้งและน้ำตาลด้วย