การออกกำลังกายด้วยเครื่องออกกำลังกายให้เหมาะสม

ทุกวันนี้การออกกำลังกาย ให้ความนิยมกันมากขึ้น เพราะว่าการออกกำลังกายช่วยให้สุขภาพแข็งแรง และสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะลดน้ำหนัก การเลือกอุปกรณ์สำหรับบริหารร่างกาย หรือ เครื่องออกกำลังกาย มาช่วยลดน้ำหนักที่บ้าน เป็นตัวช่วยอีกวิธีในการดูแลรูปร่างไปพร้อมรักษาสุขภาพให้แข็งแรง จำเป็นจะต้องเลือกดูให้ดีว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมกับจุดประสงค์หลัก หรือไม่

เพื่อช่วยให้ร่างกายได้สุขภาพที่แข็งแรง เพิ่มความฟิตแอนด์เฟิร์มได้ดี ดังนั้น เครื่องออกกำลังกาย แต่ละชนิดก็มีคุณประโยชน์เฉพาะทางต่างกันออกไป

– ถ้าต้องการฟิตหุ่นหรือกล้ามเนื้อให้แน่นและแข็งแรง ต้องเลือก เครื่องออกกำลังกาย ประเภทช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เช่น ตุ้มน้ำหนักมานอนยกน้ำหนัก กรรเชียงยก หรือ อุปกรณ์ประเภทมัลติยิมที่มี เครื่องออกกำลังกาย หลายส่วนในอุปกรณ์เดียวกัน
– พิจารณาถึงการใช้งานของแต่ละอุปกรณ์ และประโยชน์ที่ได้มากกว่าจะหลงฟังแต่คำโฆษณาชวนเชื่อ
– ถ้าต้องการลดน้ำหนัก เลือกอุปกรณ์ประเภทแอโรบิก เช่น ลู่เดินกึ่งสเต็ป (เครื่องเดินวงรี) จักรยานปั่นออกกำลังกายอยู่กับที่ สายพานเดิน-วิ่ง ลู่วิ่งไฟฟ้า
– ถ้าต้องการลดหน้าท้อง เลือกอุปกรณ์ เช่น เครื่องซิทอัพ เครื่องออกกำลังกายลดหน้าท้อง
– ถ้าต้องการลดน่อง หรือต้นขา เลือก เครื่องบริหารช่วงขาและสะโพก
-เช็คสภาพ ล้อ นอต เฟือง คันถีบหรือก้านจับต่างๆ ตรวจดูให้ดีว่ามีจุดใดบกพร่องชำรุดหรือไม่ อุปกรณ์ชิ้นนั้นสามารถปรับให้เข้ากับตัวท่านเองได้ดีหรือไม่ และเมื่อลองใช้ดูแล้วสามารถใช้ได้ถนัดดี และเหมาะกับตัวเองหรือไม่ เป็นต้น
– เช็คพื้นที่ว่าเหมาะสมที่จะวาง เครื่องออกกำลังกาย หรือไม่ เครื่องออกกำลังกาย / อุปกรณ์ออกกำลังกาย บางประเภทต้องอาศัยพื้นที่จัดเก็บ
เครื่องออกกำลังกาย ปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ ทั้งราคาถูกและเก็บง่ายสะดวก แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้อุปกรณ์ประเภทใด ผลของการลดน้ำหนักจะเป็นที่พอใจได้ก็ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอและจริงจังของท่านเท่านั้น

การดูแลฟันและพบทันตกรรมเด็กในแต่ละช่วงอายุสำคัญอย่างไร

  1. ทันตกรรมเด็กแรกเกิด ถึง 2 ปี ทารกบางคนเกิดมาพร้อมกับควาดผิดปกติในช่องปาก เช่น ภาวะลิ้นติด หรือริมฝีปากติด (tongue ties, lip ties) ซึ่งอาจทำให้ดูดนมได้ไม่ดี หรือสร้างความเจ็บปวดให้กับมารดาระหว่างให้นมได้ ซึ่งหากได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ก็จะทำให้ทารกดูดนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลกับน้ำหนัก และการเจริญเติบโตของน้องๆ ในอนาคตได้

คุณควรพาบุตรหลานมาพบทันตกรรมเด็ก ก่อนหรือเมื่อฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินขวบปีแรก โดยทั่วไปฟันซี่แรกจะขึ้นเมื่อทารกมีอายุได้ 6-8 เดือน การรักษาความสะอาดในช่วงก่อนฟันขึ้นทำให้ง่ายๆ ด้วยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดบริเวณเหงือกหลังจากดูดนมอิ่มแล้ว เมื่อฟันเริ่มขึ้นคุณสามารถใช้แปรงสีฟันขนนุ่มขนาดเล็กแปรงเบาๆ ได้

ในช่วงแรกนี้เด็กๆ จะเริ่มเปลี่ยนจากการดูดนมอย่างเดียวไปเป็นอาหารอ่อนๆ คุณควรเตรียมอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลีกเลี่ยงอาหาร หรือขนมที่มีน้ำตาลสูง เพราะอาจส่งผลต่อฟันรวมถึงสุขภาพโดยรวมของทารก

ในช่วง 2 ขวบปีแรกของชีวิต เด็กๆ ยังเดินได้ไม่ค่อยแข็งแรง ทำให้เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ การบาดเจ็บเกี่ยวกับฟันจึงเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย คุณควรรีบพาเด็กๆ มาพบทันตกรรมเด็กในทันที เนื่องจากหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อฟันแท้ในอนาคตได้

  1. ทันตกรรมเด็ก ในวัยเด็กเล็ก (3-5 ปี) ในช่วงนี้ฟันน้ำนมจะทยอยขึ้นมาครบทุกซี่ จากสถิติเราพบว่าเกือบครึ่งของเด็กในวัยอนุบาลเริ่มมีฟันผุอย่างน้อย 1-2 ตำแหน่งก่อนจะเริ่มเข้าเรียน เราจึงอยากเน้นย้ำความสำคัญของการแปรงฟัน และการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ให้กับเด็กๆ

แนะนำให้ใช้ยาสีฟันสำหรับเด็กที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ซึ่งมีความเข้มข้นพอเหมาะ บีบไม่ต้องมาก ประมาณเท่าเม็ดถั่วต่อการแปรงฟันหนึ่งครั้งก็พอ ในช่วงนี้เราอยากให้คุณเริ่มใช้ไหมขัดฟันให้กับเด็กๆ ด้วย แม้ว่าเด็กในวัยนี้มักเริ่มอยากทำอะไรด้วยตัวเอง แต่คุณก็ควรช่วยแปรงฟันให้ หมั่นกำชับ และตรวจสอบว่าบุตรหลานของคุณได้ทำความสะอาดช่องปากอย่างมีประสิทธิภาพ และสม่ำเสมอหรือไม่

พฤติกรรมดูดนิ้ว หรือจุกขวดนม ควรได้รับการแก้ไขเมื่อเข้าถึงวัยนี้ เพราะอาจส่งผลถึงการเจริญเติบโตของฟัน กระดูกใบหน้า และขากรรไกรได้ การบาดเจ็บต่อฟันพบได้เยอะเช่นกัน หากเกิดอุบัติเหตุคุณควรรีบพาเด็กๆ มาพบทันตกรรมเด็ก กรณีที่ฟันน้ำนมหลุดก่อนเวลาที่ฟันแท้จะขึ้น คุณหมออาจจะต้องใส่เครื่องมือพิเศษเพื่อไม่ให้ฟันซี่ข้างเคียงล้มลงมาจนทำให้ฟันแท้ไม่สามารถขึ้นได้

  1. ทันตกรรมเด็ก ในวัยประถมถึงมัธยม (6-11 ปี) ในวัยนี้ฟันแท้จะเริ่มขึ้นมาทดแทนฟันน้ำนมที่หลุดไป สามารถเปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันสูตรของผู้ใหญ่ได้ และคุณสามารถให้เด็กๆ รับผิดชอบการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันด้วยตัวเอง โดยคุณยังต้องคอยตรวจสอบเป็นระยะได้ การที่บุตรหลานของคุณไปโรงเรียน จึงทำให้ควบคุมเรื่องอาหารและขนมลำบากมากขึ้น หากไม่ดูแลเรื่องการทำความสะอาดให้ดีก็จะทำให้ฟันผุง่าย การเคลือบหลุมร่องฟันเป็นการรักษาสำคัญที่จะมีส่วนช่วยป้องกันฟันผุได้

ในบางกรณีหากทันตกรรมเด็กตรวจพบการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติและอาจส่งผลกระทบต่อฟันซี่อื่นๆ คุณหมออาจแนะนำให้เด็กๆ เริ่มจัดฟันเร็วกว่าปกติ เพื่อแก้ไขและลดโอกาสที่ฟันจะเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่ทำให้การจัดฟันในอนาคตมีความซับซ้อนมากขึ้น หากบุตรหลานของคุณชื่นชอบการเล่นกีฬา คุณควรพามาทำเฝือกใส่ฟัน และแนะนำให้ใส่ขณะเล่นกีฬา เพื่อป้องกันหรือลดการบาดเจ็บต่อฟัน รวมถึงเนื้อเยื่อข้างเคียงในกรณีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

  1. ทันตกรรมเด็ก ในเด็กวัยรุ่น (12-16 ปี) เมื่อถึงวัยรุ่น ส่วนใหญ่ฟันน้ำนมจะหลุดออกไปเรียบร้อย และฟันแท้จะขึ้นทั้งหมดแล้ว (ยกเว้นฟันกรามบางซี่) ฟันชุดนี้เป็นฟันที่จะอยู่กับบุตรหลานของคุณไปตลอดชีวิต จึงควรได้รับการดูแลอย่างดี ในวัยยนี้คุณจะเริ่มไม่สามารถควบคุมประเภทของอาหาร และการทำความสะอาดช่องปากของเด็กๆ ได้เหมือนเมื่อก่อน การเคลือบหลุมร่องฟันจึงยังมีความสำคัญโดยเฉพาะในฟันกรามซี่ที่เพิ่งขึ้น

วัยนี้เป็นวัยที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มจัดฟัน เพราะกระดูกขากรรไกรยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต การจัดฟันสามารถแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติมากๆ ได้ ซึ่งหากรอจนถึงวัยผู้ใหญ่อาจทำได้ยากมากขึ้น หรืออาจมีความจำเป็นต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัด กีฬาที่บุตรหลานของคุณเล่น อาจมีการกระทบกระทั่งที่สูงขึ้น ผาดโผนมากขึ้น การใช้เฝือกสบฟันเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจึงยิ่งมีความสำคัญ ในช่วงปีท้ายๆ ของวัยรุ่น เด็กๆ อาจเริ่มประสบปัญหาของฟันคุดได้เช่นกัน https://www.willdentdentalclinic.com/our-services/pediatric-dentistry/